ทริปนี้คงไม่เกิดขึ้นถ้าไม่ได้ไปกินข้าวเย็นกับคามิโอะซังกะคุราตะซัง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนเจ็ดได้
คามิโอะ: ยุปะซังอยากไปเที่ยวที่ไหนอีกในญี่ปุ่น
ยุปะ: อยากไปปีนฟูจิอ่ะ เค้าว่าปีนได้เฉพาะหน้าร้อนใช่ม่ะ แต่ว่าไม่รู้ว่าจะไปกับใคร
คุราตะ และ คามิโอะ: มาจิเตะ!!!
ยุปะ: อื้อ ครั้งนึงในชีวิตอ่ะ เราคงไม่มีโอกาสอีก
คุราตะ: ลองไปถามฟุกุชิม่าซัำงดูสิ เค้าชอบปีนเขา ให้ฟุกชิม่าซังเป็นคนวางแผนดู ถ้าได้ก็ไปกัน
คามิโอะ: อยากไปเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้มาจากนาโกย่า เจอกันที่ฟูจิ
วันถัดมาเราก็พุ่งไปหาฟุกุชิม่าซัง บลา บลา บลา ชักแม่น้ำทั้งร้อยสายมา สรุปฟุกุชิม่าซังก็ตกลง แล้วก็โดนคุราตะซังหักหลัง สรุปวันกันดิิบดี มีสมาชิกทั้งหมด สี่คนจากโตเกียว สองคนจากนาโกย่า เราก็ลงทุนซื้อรองเท้าใหม่เพราะรู้ว่ารองเท้าที่มีอยู่มันไม่ดีแค่เดินพื้นลื่นๆหัวก็จะคะมำตลอดเวลาอยู่แล้ว
พอใกล้ถึงวันพยากรณ์อากาศบอกว่าฝนตก ถึงวันศุกร์เลยตกลงกันว่าจะเลื่อนเพราะว่าโอกาสฝนตก 80% เลื่อนเป็นอาทิตย์หน้า แต่สรุปว่าสมาชิกเหลืออยู่สามคน เอาว่ะ สู้โว้ย
ออกเดินทางตอนวันเสาร์บ่ายสาม ไปถึงฟูจิโยชิดะก็ไปกินโฮโตวดังรูปแรกที่เห็น ก็อร่อยดีอ่ะ แล้วก็มีซาชิมิเนื้อม้า ครั้งแรกของข้าพเจ้า สีมันแดงๆหมองๆ น่ากลัวพิกล เนื้อมันก็เหนียว เหนียว เคี้ยวยาก ไม่ค่อยประทับจายยย
กินเสร็จก็แวะซื้อของที่เซเว่นแ้ล้วก็ขึ้นไป โกะโกเมะ (ชั้นห้า) ฟูจิมีทั้งหมดสิบชั้น รถสามารถไปถึงได้สูงสุดที่ชั้นห้า ที่เหลือก็แล้วแต่บุญพาวาสนาส่งแล้วว่าจะได้ขึ้นไปถึงยอดเขาหรือเปล่า ไปถึงรถติด คนเยอะเหมือนกันอ่้ะ ตอนแรกก็ว่าจะเริ่มตอนสามทุ่ม เห็นคนแล้วเปลี่ยนใจกันทันทีสองทุ่มน่าจะดีกว่า ช่วงแรกๆเดินยังไม่ยากเท่าไหร่ เป็นแบบเนินๆ เดินไปเรื่อยๆ ถึงชั้นหกตอนประมาณสองทุ่มสี่สิบถือว่าทำเวลาได้ดี แอบคิดในใจถึงแน่่ซัมมิทก่อนพระอาทิตย์ขึ้น พอเข้าชั้นเจ็ดคนเริ่มเยอะ คนติดกันเป็นระยะๆ คนติดเพราะทางแคบ แล้วก็แอบเป็นหินอ่ะ ต้องปีนๆ ฮึบฮึบตลอด ถึงชั้นเจ็ดเอาตอนสี่ทุ่มสี่สิบ คนเยอะก็เยอะเหนื่อยก็เหนื่อย ปวดหัวหายใจไม่ทัน เริ่มพักบ่อยขึ้นๆ ไอ้ชั้นแปดเนี่ยมันมีหลายแปดมาก แปดอันแรก แปดอันที่สอง แล้วก็แปดจุดห้าอ่ะ ง่วงก็ง่วง เหนื่อยก็เหนื่อย สูดO2เข้าไปมันก็ยังง่วงอยู่ดี ไม่ได้ดูเวลาเลยว่าถึงชั้นแปดตอนกี่โมง พอถึงจุดพักในใจบอกว่าไม่เอาแล้ว ไปกันเหอะ ง่วง ชั้นจะนอนรออยู่ตรงนี้แหละ ไม่ไหวแล้ว แล้วสายตาก็มองเห็นคุณป้าแก่ๆ แกยังเดินกันได้ เด็กน้อยก็ยังเดินกันได้ เอาว่ะเป็นไงเป็นกัน ส่วนพวกเราก็รอกันเป็นพักๆ เพราะฟุกุชิม่าซังเค้าตัวโต น้ำหนักเยอะ สปีดจะช้าหน่อย เดินๆำไปจนตีสี่กว่าๆ เราเองไม่ไหวแล้วอ่ะ เหนื่อยมากๆ ถามทากาฮาชิซังว่า เรารอฟุกุชิม่าซังตรงนี้ม่ะ รอดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วย ไหนๆก็ไปไม่ถึงยอดก่อนพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ดี ตอนเดินๆ มันไม่รู้หรอกว่ามันหนาว พอนั่งปุ๊ปนี่สะท้านเลย หนาวมากกกกก แล้วไอ้ทางเดินตอนที่มันเป็นหินๆเราว่ามันเดินง่ายกว่าเป็นเนินๆอ่ะ เป็นหินเหมือนสู้เป็นพักๆแต่ไอ้เนินเนี่ยมันต้องสู้ตลอดเลย เหนื่อยเหลือเกิน....
พอพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว สวยมากก ข้างล่างเป็นทะเลเมฆ ทะเลหมอก ตอนที่พระอาทิตย์ค่อยๆขึ้นก็มีเสียงฮือเสียงฮาเป็นระยะ ระยะ กำลังใจดีขึ้นเป็นกองแต่มีแค่กำลังใจกำลังกายอ่ะไม่มีีแ้้ล้ว เดินไปหนึ่งโค้งพักไปห้านาที ตอนแีรกว่าจะรอฟุกชิม่าซังที่ชั้นเก้าแล้วขึ้นไปบนยอดเหมือนกัน แต่หลังจากซัดข้าวเช้าไปแล้วเนี่ย มันปวดสุขามากเลย ก็เลยชวนกันไปรอบนยอดล่ะกัน ที่นี้เลยสปีดกันแหลก คนติดชะมัดก็เลยใช้ทางที่โคตรชันขึ้นไปกัน ไอ้ช่วงจากชั้นเก้าถึงยอดเนี่ยมันจะมีทางหินที่เดินง่ายๆกะที่เดินยากๆ เราเลือกไอ้ยากๆอ่ะ เหนื่อยก็เหนื่อยแต่เร็วดี พอถึงยอดนี่กบาลแทบแตก ปวดหัวนรก แถมห้องน้ำเจือกคิวยาวเป็นกิโลอีกอ่ะ ตรูเลยไม่เข้าก็ได้ฟะ รอตอนขาลงล่ะกัน พอฟุกุชิม่าซังมาถึงประมาณเก้าโมงกว่า ไปถ่ายรูปที่ป้าย ไปเดินๆดูที่ปล่องแล้วก็ลงเลย ไอ้เดินลงนี่ก็เหนื่อยมากกกก เกร็งไปทั้งตัว มันเป็นทางสไลด์ลงอ่ะ แต่ถ้าสไลด์เร็วๆนี่อาจล้มอย่างแรง เลยค่อยๆไป แต่ก็ล้มประมาณสองสามทีได้อ่ะ กว่าจะลงมาถึงชั้นห้าก็บ่ายสอง เหนื่อยโคตรๆๆๆๆ หมดแรง
ร่างกายระบบเป็นอาทิตย์เลย วันจันทร์นี่แทบไม่อยากลุกไปทำงาน เดินลงบันไดแต่ละที่นี่ร้องโอย ร้องโอยตลอดทาง ขำตัวเองดี
ในที่สุดความตั้งใจนึงของทริปครั้งนี้ก็สำเร็จไปอีกอย่าง บันจี้จัมพ์ นิฮงซานเคย์ แล้วก็ปีนฟูจิ เย้!!!
2 comments:
Sugoi!! yupa-chan!! ^^
Great!!
-Som'
Post a Comment