Saturday, September 30, 2006

trust

Someone just told me "I can't trust you", I have nothing to say. The reason is I think it's better not to tell something that would hurt people feeling, it turns to be that I betrayed. No offense, but I have my own reason for not telling. First of I'm not in the position that I can decide to tell or not to tell. I dont have any authority to tell. Plus if I do that it would be awkward situation since I am a reason of this consequence, even I don't know this before I made my decision though. I can guess that if I said something, our relation won't be the same. Although now it's not the same anymore.

I think about this to myself that when we think this is the best solution for everybody, it may be the worst thing for someone else. People has different way of thinking. So I wont step into other people business anymore.

Live me alone!!

Hakkejima Sea Paradise

17 Oct '04

เนื่องจากโฆษณาบนรถไฟ JR เป็นตัวกระตุ้นให้พากันมาเที่ยวที่ Hakkejima Sea Paradise หลังจากที่เมื่อวานไปเที่ยว Disney Land มาที่นี่ให้ความรู้สึกคนละแบบเลย คนละแบบจริงๆ เมื่อวานคนเยอะโคตร ทำไรก็ต้องรอคิว แต่ที่นี่ไม่ต้องเลย ไม่ต้องเสียค่าเข้า เสียแต่ค่าเครื่องเล่น อยู่ริมทะเล ลมเย็น บรรยากาศดี เสียอย่างเดียวต้องต่อรถกันหลายรอบสุดๆ Gotanda ----> Shinagawa ----> Yokohama ----> Kanazawa Hakkei ----> Hakkejima
ยังดีนะที่ทริปนี้มีบายาร์ไปด้วยไม่งั้นได้หลงกันทั้งไทยทั้งปีนัง ในสวนสนุกเท่าที่ไปมา ถ้านับเรื่องเครื่องเล่น เราชอบที่นี่เป็นที่สามรองจาก FujiQ กะ Dome city เครื่องเล่นที่เจ๋งที่สุดต้องนี่เลย "Blue Fall" free fall ที่สูงที่สุดในโลก 107 เมตร โอ้วแม่เจ้า มันสูงมากอ่ะ พอขึ้นไปนี่แบบสูงมาก มันค่อยๆขึ้นไป ทีละนิด ทีละนิด เห็นวิวทะเลได้ไกลมากก พอถึงจุดสูงสุดนับ หนึ่ง สอง สาม ฟิ้ววววววววววววววววว หล่นลงมานี่หัวใจแทบหล่นไปตาตุ่ม กรี๊ัดสนั่นแต่เจ๋งมากกกก
มีเด็กซักสิบกว่าขวบได้ นั่งข้างๆเรา เล่นตั้งหลายรอบ สุดยอดเลยน้อง



อีกอันที่เด่นคือ Roller coaster ชื่อ Surf Coaster ที่เด่นคือมันยื่นเข้าไปในทะเลอ่ะ วิวเจ๋งมาก แต่ว่าไอ้วนๆสามตลบที่เห็นอยู่นี่ไม่ไหวๆ ทำเอามึนไปเลย มันไม่ได้น่ากลัวนะ แต่มันน่าอ๊อกมากกว่่าอ่ะ ต้องพึ่งยาดมไปพักนึงเลย

แต่ที่น่ารักสุดๆก้น่าจะเป็น Dolphin Fantasy มีปลาโลมาเยอะมากกก อันนี้ชอบสุดๆๆ



อีกที่ก็ AQUA MUSEUM อ่ะ เค้าทำเป็นกระจกบานใหญ่มาก เห็นปลาน้อยใหญ่เต็มไปหมด นี่เห็นในฉากละครตั้งหลายเรื่อง

วันนี้ได้ลองกินวาซาบิ ซอฟครีมด้วย โอ๊ยกินไปน้ำตาไหลไป แต่ก็อร่อยดีอ่ะ รสมันสีม่วงก็อร่อย ชอบๆ สรุปวันนี้สนุกสุดๆ หมดแรงเลย

All photos are courtesy of http://www.seaparadise.co.jp/english/ENGLISH/syoukai.html

Saturday, September 23, 2006

Saturday, September 16, 2006

Autumn foliage in Nikko

3rd Nov is Holiday called Culture day so we plan to go to Nikko for autumn foliage.
Thanks to Fukushima-san who come up with the plan.
I once told him that I want to go to Nikko and he still remember that...

Arigatou Fukushima-san ^^.

We meet in front of office at 7 o'clock and our vehicle is Fukushima-san's tiny car..very kawaii car (imported car ;P).
Meet Bayaru and his family at outskirt of Tokyo then our journey has begun..

Since today is holiday traffic is a bit jammed especially when go up to waterfall and lake
nevermind the scenary while travelling is AWESOME!!
Mountains are covered with yellow, red, brown autumn leaves. I couldnt find exactly word to describe only fastinating (^^)..

After have lunch at restaurant near the lake, we wander around the lake. Then go to the famous waterfall..
Sounds of waterfall is very loud...we hear it from far far away ^^

This trip is really fun and wonderful...Bayar's family is very very nice and friendly. Really warm family they are.
Fukushima-san, thanks again for setting up this trip. Without you, we possibly couldnt go to Nikko for sure.

Unfortunately, we have not enough time to visit the famous Nikko Tosho-gu (UNESCO World heritage)...so bad

โตเกียวภาคต่อ Oct version

โฮ่ โฮ่ ในที่สุดก็ทำไม่สำเร็จที่คิดว่าจะจบโตเกียวทริปก่อน 12 กันยา เหอๆ


Oct

วันนี้มี farewell party สองรอบ รอบกลางวันกะรอบเย็น รอบกลางวันเป็น Sushi จาก Lunch Girl กินที่้ร้านใกล้ๆกับ office อร่อยดีอ่ะ
ส่วนตอนเย็นคราวนี้มีแต่ EBU จากกลุ่มฟูจิตะซังกับทากาฮาชิซัง กลุ่มเล็กลง คนใกล้ชิดกันทั้งนั้น
ตอนแรกก็ไปกินไคเต็นซูชิกันก่อน กินให้อิ่มแล้วค่อยย้ายไป second party ที่ไม่เน้นอาหารแต่เน้นที่เครื่องดื่มแทน
เรานั่งข้างๆโอจิม่าซัง โอ้วแม่เจ้า พ่นบุหรี่ปุ๋ยๆเต็มหน้าเราเลย แล้วเค้าสูบบุหรี่จัดมากๆ มวนต่อมวน เราเลยกลายเป็นตุ๊กตารมควัน(บุหรี่)ไปเลย เซ็งโคตรๆๆ
ฟูจิตะซังพอเมาแล้วตลกดี ไม่เครียดเหมือนเวลาปกติอะ ขำขำ
แต่ที่เห็นอย่างนึงวันนี้คือผู้หญิงญี่ปุ่นอ่ะถูกใช้งานตลอดเลย ฮาร่าซังเลยกลายเป็นเหยื่อไปเลย เพราะมี ญ ญี่ปุ่นอยู่คนเดียว
ที่เหลือก็ไทยกับปีนังอย่างละคน มันคงไม่กล้าใช้ตูหรอก เราคิดในใจ
พอได้เวลาเกือบห้าทุ่มได้ ก็ถึงเวลางานเลี้ยงเลิกเพราะเดี๋ยวรถไฟหมด เราไปนอนที่ห้องของ Shally เพราะพรุ่งนี้เค้าก็กลับแล้วอ่ัะ เราแอบเศร้าเหมือนกัน
ห้องที่ Hamamatsucho กว้างกว่าที่เราอยู่พอสมควร แถมตู้เย็นก็ใหญ่กว่าแต่ว่าทางเดินเข้ามันช่างเงียบสงัดเสียกระไร
แถวที่เราอยู่มีร้านสะดวกซื้อแทบทุกยี่ห้อ มีร้านกาแฟสุดโปรด มีร้านหนังสือ มีร้านเกมส์ มีร้านหนมปัง แต่แถวนี้แทบไม่มีไรเลยอ่ะ
ถึงห้องก็ช่วยจัดของ แพ็คของ กว่าจะได้นอนก็ดึกพอสมควรอ่ะ


Oct

ถึงเวลาร่ำลากันจริงๆ เราเลยให้สัญญาว่าแล้วเราจะไปเที่ยวปีนัง
แอบเศร้านิดนึงอ่ะเพราะเพื่อนที่สนิทที่สุดที่นี่ก็กลับประเทศไปแล้ว

ตอนเย็นนัดเจอกับกอยุทธที่ชินจูก เจอแผ่นดินไหวด้วยอ่ะ
สั่นแรงพอสมควรแต่ไอ้คนญี่ปุ่นรอบข้างมันไม่ตื่นเต้นกันเลย
มีแต่ฝรั่งกะเราที่ดูงงๆไปเหมือนกัน
กอยุทธถามว่าอยากกินอาหารไทยไม๊
ไปกินแก้วใจที่ Lumine กินเตี๋ยวหมูน้ำตก อร่อยมากกกก
กินแล้วรู้สึกดี คิดถึงบ้าน ฮาฮาฮา


Oct

หลังจาก Shally กลับไปเราก็ไม่ค่อยมีกิจกรรมให้ทำเท่าไหร่

วันนี้เริ่มด้วยเหมือนวันทำงานธรรมดาๆ
แต่อยู่ดีๆก็ตงิด ตงิด ลองค้นหาตั๋วรถไฟในกระเป๋าดู เอมันหายไปไหนฟระ
ค้นรอบโต๊ะ ใต้โต๊ะ บนโต๊ะ ในลิ้นชักก็หาไม่เจอ ซวยแล้วกู
นึกขึ้นได้ว่ามันต้องหายตอนที่รีบวิ่งมาทำงา่นกับชิฮารุซังแน่ๆเลย
ตูเซ็งสุดๆ ถ้าต้องซื้อตั๋วใหม่เนี่ยงบไปเที่ยวก็จะหายไป ทำไงดี ทำไงดี
พอดีคาวาคามิซังก็ถามว่ามีไร ก็เลยบอกไปว่าตัวรถไฟหาย
เค้าเลยบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปสถานีแจ้งหายด้วยกัน กรี๊ดๆดีใจ เหอๆๆๆ
วันนี้ทำงานกันดึกทุกคนทั้งเรา พี่วัฒน์แล้วก็เคนโตะ ตอนจะกลับเลยเดินไปกินราเมนเจ้าโปรดกันก่อนกลับ
เคนโตะมันกลัวตกรถไฟเที่ยวสุดท้ายมาก ถึงสถานีก็เที่ยงคืนพอดี Safe!


Oct

วันนี้ไปออกตั๋วอันใหม่ ยุ่งยากเหมือนกันนะ
เหมือนข้อมูลของเราไม่อยู่ในระบบไงก็ไม่รู้
ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะทำเรื่องเสร็จยังดีนะที่คาวาคามิซังมาด้วย
ไม่งั้นถ้ามาคนเดียวครึ่งวันก็ไม่รู้่จะเสร็จหรือเปล่า
ภาษานี่เป็นอุปสรรคที่ใหญ่มากในการดำรงชีวิตในประเทศนี้นะเนี่ย


OCT

กว่าจะตื่นก็สายโ่ด่งวันนี้นัดกะเคนโตะว่าจะไปเที่ยวอาซากุสะกัน มีัเพื่อนเคนโตะชื่อยูโกะไปด้วย
เราอ่ะไปมาหลายรอบแล้วเลยเฉยๆ ถือว่าฆ่าเวลาเล่นๆ
เคนโตะดูในแผนที่ที่ีเค้าแจกแล้วบอกว่าอยากไปวัดวัดนึง ทุกคนเลยตามใจมัน ไกลโคตร
เิดินไปแบบไกลมากกกก ปวดขา แถมวัดปิดอีกตะหากตอนไปถึง
ตกเย็นเลยว่านั่งเรือกลับกันเหอะ อ่านเจอใน lonely planet ว่าเรืือจะผ่านสะพานตั้งหลายอัน
เลยอุตส่าห์โทรไปตามพี่วัฒน์มา พอถึงเวลาจริง ผิดหวังอ่ะ เรือมันวิ่งเร็วไป ถ่ายสะพา่นไม่ได้เลย
แถมกลางคืนแล้วไม่ค่อยมีไรให้ดูเท่าไหร่ เลยเหมือนกับ mission นี้ fail ไป เซ็งจัด เซ็งจัด


จบเดือนตุลาแล้ว ไว้ค่อยมาต่อเดืิอนพฤศจิกายนล่ะกัน

Sunday, September 10, 2006

โตเกียวภาคต่อ

ผ่านมาจะสองปีแล้วยังเขียนเรื่องนี้ไม่จบซักที จะพยายามให้จบก่อนวันที่ 12 กันยาให้ได้ --> แต่สงสัยว่าจะยากว่ะ

หลังจากเปียกโชกกับไต้ฝุ่นมา อาทิตย์ถัดมาก็เที่ยวแหลกเพราะ Shally กำลังจะกลับปีนังแล้วเลยต้องรีบเที่ยวให้ได้เยอะๆ

10 Oct'04 [Odaiba, Ferris Wheel]
ตอนแรกนัดกันว่าจะไปซื้อของฝากกันที่ชินจูกุ แถวๆ Alta Studio แต่ไปถึงหาร้านที่จะไปไม่เจอซักที เลยเปลี่ยนแผนไปเที่ยว Odaiba ดีกว่า เดินมันเข้าไปทุกห้างที่อยู่แถวนั้น เดินจนขาลากเลย สุดท้ายก็ไปขึ้นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก รอคิวนานนนนนมากกว่าจะได้ขึ้นอ่ะ ทำไมคนญี่ปุ่นชอบชิงช้าสวรรค์จัง แค่แถวๆนั้นก็มีตั้งสองอันแล้ว ที่โยโกฮาม่าก็มีอีกอัน หรือว่าชิงช้าสวรรค์มีความหมายในด้านอื่นอีกหว่า
11 Oct'04 [Tokyo Tower, Ueno]
วันนี้วันหยุดเลยนัดกันว่าไปเที่ยวโตเกียว ทาวเวอร์ดีกว่า แต่ว่าอากาศแย่สุดๆ ไต้ฝุ่นพึ่งเข้าอ่ะ ขึ้นไปมองไม่เห็นอะไรเลย ทัศนวิสัยต่ำสุดๆ แล้วก็ไปอาเมโยโกะที่ Ueno เป็นตลาดขายของถูก มีทุกอย่าง ร้านขายขนมแบบขายส่งอะ เห็นแล้วรู้แต่ว่าเวลาเราจะกลับเมืองไทยต้องมาที่นี่แน่นอน ถูกและดี ไอ้คำว่าถูกเนี่ยหาไม่ค่อยได้ในประเทศนี้อ่ะ เหอๆๆ แถวนี้นี่ร้านเยอะจริงๆ มาอ่านเจอในเวบที่หลังว่าใกล้ๆนี้มีร้านขายของเกาหลีแบบเกาหลีทาวน์อยู่ด้วยอ่ะ เดินจนเหนื่อยเลยพักกินข้าวที่ร้านแถว Ueno Park แล้วก็ไปถ่ายรูปกับรูปปั้นไซโกะซังที่เราแซวกันว่าเหมือนฟุกุชิม่าซัง อิอิ

12 Oct'04
หลังจากอยู่ญี่ปุ่นมาหนึ่งเดือนเต็ม ทนไม่ไหว อยากกินอาหารไทยอย่างแรง จะให้ทำเองรึก็ทำไม่เป็น ถึงทำได้ก็คงง่ายๆแบบไข่เจียวหมูสับแต่มันไม่มีหม้อหุงข้าวอ่ะ ไม่ได้กินข้าวสวยร้อนๆคู่ก็ไม่ไหวนา ด้วยความอยากกินจัดเปิดเวบหาร้านอาหารไทยแถวสถานีชินจูกุทันทีหลังกริ่งเลิกงานดัง เหอๆ จริงๆมันก็มีหลายร้านอ่ะ แต่ไปไม่ถูกเลย มีอยู่ร้านเดียวที่พอคลำทางไปได้ อยู่ที่ห้าง MYCITY ชั้นบน จำชื่อร้านไม่ได้แล้วอ่ะ เลยชวนพี่วัฒน์ว่าไปกันเถอะ พี่วัฒน์ก็ตามใจ ไปก็ไป รอคิวแป๊ปนึง สั่งผัดผักบุ้ง ไส้อั่ว ต้มยำกุ้ง แล้วก็อยากกินไข่เจียวหมูสับ แต่เมนูไม่มีอ่ะ มีแต่ไข่ยัดไส้ คุณพนักงานคนไทยก็ใจดีทำให้กิน ดีใจสุดๆ มื้อนั้นหมดไปคนละ 3000Yen แพงแต่ก็สุขใจ (^^)

13 - 14 Oct'04 [Trip to Aizu]
วันนี้ได้เวลาไปเที่ยวโรงFab ที่เมืองAizu เดี๋ยวตอนบ่ายไปเจอเซี๊ยะกะซีเคที่สถานีโตเกียว เค้านั่งชินกันเซ็นมาจาก Nagoya กัน สรุปทริปนี้มี ไทยกะปีนังอย่างละสามคน ญี่ปุ่นคนนึง มองโกเลียอีกคนนึง กว่าจะไปถึงนี่ไกลใช่ย่อย นั่งชินกันเซ็นก่อนสองชั่วโมงแล้วค่อยไปต่อเป็นรถไฟสายพื้นบ้านอีกชั่วโมงกว่า เป็นรถหวานเย็นมากๆๆ ไปถึงนู่นก็เย็นๆ ค่ำๆแล้ว เช็คอินเข้าโรงแรมหน้าสถานีรถไฟ เมืองเค้าก็ไม่ใหญ่มากนะ มีห้างเล็กๆ มี มิสเตอร์โดนัท แต่ไปถึงร้านส่วนใหญ่ก็ปิดหมดแล้ว วันนี้เค้าจัด Welcome Party ให้ เป็นอาหารแบบโฮมเมดสุดๆ แต่อร่อยดีนะ ดูญี่ปุ้น ญี่ปุ่นอ่ะ อีกอย่างที่นี่มันอยู่ขึ้นมาทางตอนเหนืออ่ะ ทำให้อากาศเย็นกว่าโตเกียว นั่งๆรถไฟอยู่ก็อากาศหนาวขึ้นมาทันที
เช้าแล้ววันใหม่ หาของกินแถวสถานีก่อนนั่งแท็กซี่ไปที่โรงงาน โอ้วววโรงงานตั้งสวยเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางทุ่งน่าสีเขียวขจีล้อมรอบ 360องศา เหอๆๆ ก็เข้าไปเดินดูงานจนหมดช่วงเช้า ดูมึนๆนิดหน่อยเพราะเค้าไม่เล่า process flow ให้ฟังก่อน ไปถึงก็ลุยเลยทำให้เรียบเรียงความคิดไม่ค่อยทันเอาเหมือนกัน แถมชุดก็หายใจลำบากสุดๆอีกตะหาก จากนั้นก็กินข้าวกลางวันที่แคนทีน อาหารอร่อยดี ระบบคิดตังค์ทันสมัยอ่ะ สแกนจากลักษณะถ้วยแล้วเอาไปคิดตังค์ ไฮโซม่ะ กินข้าวท่ามกลางวิวของทุ่งนาและภูเขาสีเขียวๆ แล้วก็พากันสับขาหลอกเมเนเจอร์ที่นั่นว่าจะกลับแล้ว รถไฟจะออกแล้ว แต่อันที่จริงกว่ารถไฟจะออกก็เย็นๆอ่ะ เลยหนีไปเที่ยวปราสาทประจำเมืองนี้ก่อนกลับ ดูรูปได้จาก Photo Album นะจ้ะ

15 Oct'04
ได้ลิ้มลองโอโคโนมิยากิกะมงจายากิครั้งแรกในญี่ปุ่นที่ชิบูย่า อร่อยจัง ตอนทำก็สนุกดีด้วย ชอบ ชอบ

16 Oct'04 [Tokyo Disney Land]
ไปเที่ยววันนี้สมาชิกเพียบเลยขอบอก มีคนไทยทั้งหมดสี่คน ปีนังสามคน ญี่ปุ่นอีกสองคน คือซาโต้ที่ลาออกไปเมื่อปีที่แล้วกับผู้หญิงอีกคนที่เป็นเพื่อนทางจดหมายของเคนโตะ ครือสารภาพว่าวันนี้ตื่นสายทำให้ทุกคนสายไปด้วยเพราะตั๋วอยู่ที่เราอ่ะ ขอโทษคร้าบบบบ ถึงแม้จะได้เล่นเครื่องเล่นน้อยกว่าตอนไปดิสนีย์ซีเพราะคนที่ไปเที่ยวสวนสนุกเยอะกว่ามากแต่ก็สนุกมากกก เครื่องเล่นมันตื่นเต้นกว่า ถึงแม้จะไม่ตื่นเต้นมากเท่าไหร่ก็เหอะ ดูพาเหรดในระยะไม่ไกลมาก พาเหรดน่ารักโคตรๆๆๆ ดูรูปจาก Photo Album เอาล่ะกัน
หลังจากออกจากดิสนีย์แลนด์ ยุ่นพาไปกินข้าวหน้าปลาไหลที่ชิบุย่า โอ้วว อร่อยเหาะ

20 Oct'04 [Shally's farewell party]
วันนี้มี farewell party ไปกินที่ร้านแถวๆออฟฟิสแหละ อาหารไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ แต่อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าเค้าไม่ได้มากินอาหารแต่เค้ามาร่ำสุรากันตะหาก ตูละเบื่อ วันนี้คนมากันเกือบหมด EBU มีแถมจาก WBU แล้วก็สาวๆ Lunch girls ด้วย กินกันถึงสี่ทุ่มก็มีการกล่าวคำอำลากัน แล้วทุกคนก็รีบสลายตัวกลับบ้านเพราะว่าไต้ฝุ่นเข้าอีกลูกแล้ว ขนาดว่ารีบกันแทบตาย สุดท้ายก็ยังเปียกโชกอยู่ดี เห้อออ

Saturday, September 2, 2006

เพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย

These 2 postcards came from my favorite writer..."เพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย"...Pleng-Darb-Mae-Nam-Roi-Sai.. She is my inspiration for sending postcard back to myself. She did it before and still continue do it. I have all books written by her as my own collection...Latest one is "ใต้หมวกหิมะ", a story about her own trip in Ladakh, India. if you never read her book, suggest to read one and you will fall in love with her journey around the world ;)


October 3,2000


July 4,2000

[SKE48] ซิงเกิ้ลที่ 32 ซิงใหม่ของ SKE48 Ai no Hologram

ขอโปรโมทซิงใหม่ของ SKE48 หน่อยจ้า ส่วนตัวถึงแม้จะติดตามวงมาไม่นาน รู้สึกชอบวงนี้มาก เต้นสวย เต้นแข็งแรง มีสเตจใหม่ครบ 3 ทีม มีความเพิร์ฟดีมา...