Tuesday, January 24, 2006

東京 Part 3: Second week in Tokyo

21 Sep 2004
ในที่สุดก็ถึงเวลาต้องย้ายเข้า apartment ส่วนเซี๊ยะก็ต้องย้ายไปอยู่นาโงย่า ของเซี๊ยะเนี่ยไม่ต้องขนไรไปมากเพราะมีบริษัทรับส่งของขนไปให้ เดินตัวปลิวขึ้นชินกังเซ็นเลยนะมึง~
ส่วนเรากะพี่วัฒน์ก็ต้องอาศัย ยามาโนะเตะ สีเขียวๆ เนี่ยแหละ ด้วยความที่เรายังไม่รู้ทางกันเลย ฟูจิตะซังตอนแรกจะให้มัตซึโอะซังคนเดียวไปส่งเราสองคน พอคนอื่นๆรู้ก็บอกเราว่าโชคดีแล้วก็ขำๆกัน ไอ้เราเรอะก็งงว่าทำไมต้องขำฟระ ในที่สุดก็ถึงบางอ้อตอนนั่งรถไฟเพราะเค้าไม่พูดภาษาอังกฤษเลยซักคำเดียว ถามแล้วก็ทำหน้างง งง ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง เวรกำ ยังดีที่สุดท้ายเค้าเปลี่ยนใจให้โคดามะซังมาส่งด้วย คนนี้นี่พูดอังกฤษปร๋อเชียว เพราะไปอยู่ KL มาหลายปี แต่คิดๆไปก็สงสารทั้งโคดามะซังกับมัตซึโอะซังเหมือนกัน เพราะช่วยกันหิ้วกระเป๋าเรากับพี่วัฒน์ขึ้นบันไดตรงสถานีรถไฟอ่ะ กระเป๋าก็หนักมาก บันไดก็สูงใช่ย่อย เค้าก็ดูร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ (เพราะสูบบุหรี่จัดอ่ะเด่ะ -_-") ขอโทดนะก๊าบบบ ก่อนขึ้นรถเค้าก็สอนวิธีซื้อตั๋วเดือนให้ จะได้ประหยัดตังค์ ก็ซื้อจากสถานีชินจูกุ (新宿) ไปสถานีโอซากิ (大崎) แต่จริงๆแล้วเราสามารถลงได้ 2 สถานีอีกอันนึงคือตรงโกทันดะ (五反田) เพราะว่า apartment อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 สถานีพอดีเลย ระยะทางจากสถานีรถไฟถึงบ้านก็ประมาณ 10 นาทีได้ แต่ที่น่าดีใจคือปากซอยมี Starbucks คือเป็นโรคติดกาแฟสุดๆ
พอถึงที่เค้าก็พาไปดูห้อง ของเราห้อง 802 อยู่หน้าลิฟท์พอดี ส่วนพี่วัฒน์อยู่ 808 ตึกนี้มีทั้งหมด 9 ชั้น ชั้นละ 8 ห้องอ่ะ เราว่าดีนะดูไม่แออัดเท่าไหร่ดี ห้องใหญ่กว่าโรงแรมตั้งเยอะ มีครัวเล็กๆ มีตู้ซักผ้า ตู้อบผ้า ทีวี อินเทอร์เนต เครื่องเล่นซีดี ที่เป่าผม ที่ดูดฝุ่น ตู้เย็น ไมโครเวฟ เท่านี้ก็พอแล้ว เสียอย่างเดียวไม่มีหม้อหุงข้าวอ่ะ มีคนทำความสะอาด 2อาทิตย์ครั้ง ค่าเช่าเดือนละตั้ง 200,000 เยนแน่ะ แพงจัด โคดามะซังกับมัตซึโอะซังฟังแล้วตกใจเลย เราเองก็ตกใจเหมือนกันแหล่ะน่า
หลังจากเก็บกระเป๋าก็เดินออกมาส่งทั้ง 2 คนที่สถานีรถไฟพร้อมกับสำรวจทิศทางไปในคราวเดียวกัน ที่สถานีรถไฟมีห้างโตคิวเล็กๆอยู่ ก็ไปเดินสำรวจแล้วก็เลยตกลงใจว่าจะไปสถานีโอซากิกัน ลงจากโอซากิแล้วงงกันเล็กน้อย หาทางกลับไม่เจอ หลังจากงมอยู่พักใหญ่ก็เดินมั่วๆไป มีซุปเปอร์เล็กๆอยู่ใกล้ๆด้วย แถวนี้มีคอมบีนี่เพียบเลยทั้ง 7-11, Family Mart, AM PM แล้วก็มีทั้งร้านราเมน ร้านเทนย่า เนื้อย่าง ร้านเบนโตะ MOS Burger ด้วย ไม่อดตายแน่นอน สรุปมื้อเย็นก็กินเทนย่ากันเพราะพี่วัฒน์อยากกินเทมปุระ กลับมาดูทีวี ยังดีนะที่มีเคเบิลไม่งั้นตายแน่เลย :-)
รูปในและนอกอพาร์ตเมนท์ --เห็นไม๊อ่ะห้องน้ำซีทรู --เขิลล์

My apartment link: http://www.bureau.co.jp/en/b-site/osaki/index.html

23 Sep 2004

วันนี้เป็นวันหยุดฮะ ตามปฏิทินเค้าเรียกว่า Autumn Equinox Day เป็นวันที่กลางวันกับกลางคืนมี 12 ชั่วโมงเท่ากัน ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่ที่รู้จริงๆคือวันนี้วันเกิดผมเอง เป็นวันเกิดครั้งแรกในต่างแดน ตอนแรกพี่วัฒน์กับบายารุชวนไปดูซูโม่อ่ะ แต่เราไม่ค่อยอยากดูเท่าไหร่ เลยไปเที่ยวทานิกาวาดาเคะ (谷川岳) สะกดงี้ป่าวไม่รู้ กับ Shally ฮอนโจซัง และ อิเคดะซัง นั่งรถออกจากโตเกียวนานพอดูเลย ประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง อยู่ระหว่างกุนมะกับนิงาตะ เค้าบอกว่าไปดูน้ำตกกัน ไปถึงน้ำตกมันอันนิดเดียวอ่ะ เทียบไม่ติดกับน้ำตกหลายแหล่ในประเทศไทย เหมือนเปิดก๊อกน้ำให้น้ำไหล สงสัยว่าไปกันผิดฤดู เห็นฟุกุชิม่าซังบอกทีหลังว่าเค้าชอบไปเล่นสกีกันที่นี่ เดินเล่นอยู่พักแล้วก็นั่งรถกระเช้าขึ้นไปข้างบน ถึงข้างบนมองไม่เห็นอะไรเลย หมอกลงจัดมากกก ทัศนวิสัยต่ำอย่างที่เห็นได้จากในอัลบั้ม แต่หนาวดี สะจายยย ได้เวลาท้องร้องจ๊อกๆ ก็เลยลงมากินโซบะดั้งเดิม เค้ามีแยกซุปมาทั้งหมด 4 ชามเล็กๆ จำไม่ได้แล้วว่าแต่ละอันเป็นอะไร แต่คุณลุงคนขายย้ำนักย้ำหนาว่าต้องกินทีละชาม ห้ามกินชามนี้นิดชามนั้นหน่อยเด็ดขาด เพราะจะเสียความเป็นโซบะแบบออริจินัล คุณลุงคนขายเค้ายังบอกอีกว่าน้ำที่เค้าเอามาทำเนี่ยต้องเป็นน้ำตกจากจังหวัด...เท่านั้น ดูเค้ารักการทำโซบะเป็นชีวิตจิตใจจริงๆ เค้าทำมาตั้งแต่ยังหนุ่มและจะทำไปเรื่อยๆ ฟังแล้วทึ่งมากกก แถมยังบอกว่าคนที่เค้าจะแต่งงานด้วยต้องรักโซบะเหมือนกันด้วย.. อึ้งเลยละสิ ส่วนความอร่อยขอยกนิ้วให้ ถึงแม้ว่าบางอันจะต้องกล้ำกลืนกินก็ตามอ่ะเพราะ มันดูหนืดๆแหยะๆ แล้วมันก็เยอะมากจนแทบกินไม่หมด.. ปล่อยให้โซบะย่อยซักนิดแล้วค่อยไปซื้อไอติมเต้าหู้กิน ไอติมทำจากเต้าหู้ล้วนๆ มีหลายรสด้วย รสชาเขียว รสสตอร์เบอรรี่ รสโกโก้ .. กินแล้วไม่รู้เลยว่าทำจากเต้าหู้ อร่อยดี กินเสร็จก็ถึงเวลากลับโตเกียว ถึงโตเกียวประมาณทุ่มกว่าโดยสวัสดิภาพ ก่อนเข้าห้องแวะไปทักพี่วัฒน์ก่อน พี่วัฒน์ใจดีมากบอกว่าไปซื้อเค้กวันเกิดกัน ด้วยความเกรงใจเราก็บอกไม่เป็นไรหรอกแต่แอบอยากกิน 555 ขอบคุณนะค่ะพี่วัฒน์ ขอบคุณเซี๊ยะด้วยที่อุตส่าห์โทรมาอวยพรวันเกิดจากมือถืออิวาโนะซัง :-)

25 Sep 2004

ว่างไม่มีไรทำเลยชวนพี่วัฒน์ไปเที่ยว Imperial Palaceกัน ตาม Lonely Planet มันบอกไว้ว่าให้ไปลงสถานีโตเกียวแล้วจะมีอะไรมากมายให้ดูระหว่างทาง แต่ตอนเราไปทำไมมันไม่มีอะไรเลย มีแต่ตึกๆ แบบสำนักงาน หรือว่าเราไปผิดทางหว่า แต่เย้ในที่สุดก็ถึงจนได้ ผ่านสวนแบบญี่ปุ่นด้วย ชอบที่เค้าปลูกต้นสนเรียงเป็นแนวๆ ถึงแม้ว่าจะดูไม่สูงใหญ่แต่ก็ดูเยอะๆดี ไปถ่ายรูปกับสะพานนิจูบาชิที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ดูแล้วรู้สึกแค่ว่าของเค้าเป็นปราส๊าท ปราสาทอ่ะ ดูห่างไกล เข้าถึงยาก ไม่เหมือนสวนจิตรบ้านเราดูอบอุ่นกว่ายังไงไม่รู้ บอกไม่ถูกเดินวนๆในสวนที่เค้าเปิดให้คนนอกเข้าได้พักนึง ก็เจอแผนที่บอกว่ากินซ่าอยู่ไมไกลเลยชวนพี่วัฒน์ไปกินซ่าซะเลย

แอบหลงทางรถไฟใต้ดินนิดนึงด้วย (หลงอีกแล้ว) แต่ก็ถึงจนได้เข้าไปเดินวนๆใน Sony Building ก่อนด้วยความตื่นตาตื่นใจ เห็นอะไรก็อยากได้เป็นที่สุด เดินจนถึงชั้นล่างที่มันมี Sony Plaza แล้วก็ได้ช็อคโกแลตติดมือมาจนได้ อิอิ จากนั้นก็ไปเดินดูรอบๆ เห็นมีคนแสดงละครใบ้น่ารักดี ด้วยความอยากกินเค้กเลยไปแวะฟูจิยะ เห็นอันไหนก็อยากกินไปหมดเลย โอ้ยย ในที่สุดก็เลือกเค้กสตอร์เบอร์รี่มา 1 ชิ้น พี่วัฒน์กินไอติม พอออกจากร้านก็หาที่นั่งเหมาะๆกลางถนนที่มันปิดอยู่ นั่งแหมะแล้วก็โซ้ย มีความสุขจัง ยั่มๆๆ

No comments:

[SKE48] ซิงเกิ้ลที่ 32 ซิงใหม่ของ SKE48 Ai no Hologram

ขอโปรโมทซิงใหม่ของ SKE48 หน่อยจ้า ส่วนตัวถึงแม้จะติดตามวงมาไม่นาน รู้สึกชอบวงนี้มาก เต้นสวย เต้นแข็งแรง มีสเตจใหม่ครบ 3 ทีม มีความเพิร์ฟดีมา...