Monday, January 2, 2006

東京 Part 1: First Day in Tokyo

เคยคิดว่าจะเขียนบันทึกเกี่ยวกับชีวิต การทำงาน และแน่นอนเรื่องไปเที่ยวช่วงที่อยู่ญี่ปุ่นมานานโข ตั้งแต่ปีที่แล้วอ่ะ ไม่ได้เริ่มซักกะที ไหนๆช่วงนี้พอมีเวลาก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นเลยละกัน ไม่รู้ว่าจะเขียนได้เยอะขนาดไหนอ่ะ แล้วแต่ความอดทน 555 ถึงเราจะอยู่แค่ 3 เดือนเองแต่ก็รู้สึกดีกับประเทศนี้นะ แต่ยังไงยังไงก็ไม่มีที่ไหนสุขใจเหมือนบ้านเรา......


ทริปนี้โดยหลักมีผู้ร่วมชะตาทั้งหมด 3 คนอ่ะ มีเรา, เซี๊ยะ แล้วก็พี่วัฒน์...มียุ่นแจมเป็นบางคราว แถมยังมีชาวต่างชาติเป็นตัวประกอบด้วยนะ แน่นอนต้องมีคนญี่ปุ่น, มีคนปีนัง, คนฮ่องกง, คนเมกาแล้วก็คนมองโกเลีย..อ๊า..แปลกใจล่ะสิ..บอกไว้ก่อนว่าบริษัทเราเป็น international นะยะ


12 กันยายน 2004

ความสนุกเริ่มตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบนาริตะ พอลงจากเครื่องปุ๊ปทั้ง 3 หนุ่มสาวพร้อมใจกันเข้าห้องน้ำ ไอ้เรารึก็ธุระเบาเลยเสร็จไว ออกมาก่อน รอ 2 นาทีก็แล้ว 5 นาทีก็แล้ว คนที่อยู่ข้างๆเริ่มหายไปกันทีละคน สองคนจนไม่เหลือใครแล้ว เหลือเราอยู่เดียวอ่ะ เริ่มตกใจ เอ...หรือว่าพี่วัฒน์กับเซี๊ยะจะทิ้งตูให้ไปเผชิญชะตากรรมคนเดียวแล้วเนี่ย เกือบ 10 นาทีผ่านไปได้เริ่มไม่ไหวแล้ว จะให้เราเองเดินเข้าห้องน้ำชายรึ..ก็ไม่กล้า ยังดีมีคุณ ต.ม.หนุ่มเดินผ่านมาเลยต้องไหว้วานให้เค้าเดินเข้าไปดูอ่ะ พอเค้าเข้าไปท่านทั้งสองก็เดินออกมาพอดี เฮ้อ รอดไป นึกว่าโดนทิ้งแล้วตรู...พอมาเอากระเป๋าที่สายพานปรากฏว่ากระเป๋าหายหมดเลย มีไฟลท์อื่นมาแทนที ตกใจกันอีกเป็นรอบ 2 เดินไปเรื่อยๆก็เจอกระเป๋าสุมกองกันอยู่ .....คิดดูสิว่าสองคนนี้เข้าห้องน้ำนานขนาดไหนอ่ะ ......หลังจากผ่านพิธีการทางศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองก็มาแลกตังค์ไว้ติดกระเป๋าเป็นค่ารถ ค่ากิน แล้วก็จัดการซื้อตั๋ว Limousineไปโรงแรม Shinjuku Washington Hotel ราคา 3000Y... ด้วยสายตาไวปานเหยี่ยวของเราเองเห็นคนถือแก้ว Starbucks มาอ่ะ ด้วยความอยากกาแฟเต็มที่เลยกระโจนไปหาเค้าอย่างไร้สติ แล้วถามเค้าว่าซื้อมาจากที่ไหน เราว่าเค้าเองก็คงตกใจพอดู พอได้ความเรากะเซี๊ยะพุ่งตัวไปหา target อย่างรวดเร็วเพราะว่าใกล้ถึงเวลาที่รถจะมาแล้ว ให้พี่วัฒน์ไปรอที่ท่าก่อน กาแฟแอบแพง Grande ตั้ง 440Y แหน่ะ คิดเป็นเงินไทยตอนนั้นก็ 176 บาทถ้วน จากนั้นก็ไปรอขึ้นรถ Limousine อ่าชื่อเหมือนดูดี แต่อันที่จริงก็เป็นนรถบัสสีส้มหน้าตาแบบนี้อ่ะ http://www.limousinebus.co.jp/e/ ลิ้งค์เอาไว้เผื่อใครไปเที่ยว



ซักพักรถก็มา แต่กว่าจะไปถึงโรงแรมก็เย็น 6 โมงกว่า ที่ช้าเพราะรถติดมาก คุณคนขับรถเลยต้องเปลี่ยนเส้นทาง ขับอ้อมพาเราไปผ่าน Disney Land กะ Disney Sea อ่ะ ถึงแม้ผ่านรั้วก็ยังดีล่ะว้า ดีใจ

ที่โรงแรมมียุ่นรออยู่แล้ว ตอน check-in นี่ค่อนข้างลำบากนิดหน่อย เพราะเค้าไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษเลย ดีนะที่ยุ่นพูดญี่ปุ่นคล่องสมชื่อเลยพาเรา check-in ได้ตลอดรอดฝั่ง.. พอเข้าห้องพักถึงกับตกใจ ห้องมันเล็กมากๆๆๆ ราคาคืนนึงตั้ง 10000Y อ่ะ เข้าไปแค่คนเดียวก็เกือบเต็มแล้ว ทางเดินก็แคบ...สมราคาชินจูกุเจงๆ มีรูปให้ดูด้วย




ทางเดินในห้องกับเตียงนอนส่วนช่องสี่เหลี่ยมเหนือเตียงคือหน้าต่างอ่ะ เล็กม่ะ


แต่ถึงโรงแรมราคาจะค่อนข้างสูงแต่ก็ถือว่าสมเหตุสมผลในย่านธุรกิจแบบชินจูกุแล้วแหละ แถมยังมีทางเดินใต้ดินไปถึงสถานีชินจูกุเลย เผื่อเวลาพายุเข้าหรือหนาวจัด ใครสนใจลองเข้าไปดูที่เวบตามข้างล่างล่ะกัน จะเห็นภายนอกที่ดูงดงาม หรูหรา น่าอยู่ http://www.shinjyuku-wh.com/index2.html



ไปถึงนี่ตื่นตาตื่นใจมาก ไปเดิน Bic, Yodobashi, Sakuraya กันอย่างบ้าคลั่ง มื้อแรกกินหมูทอด ทงคัตสึ แถวคาบูกิโจ อร่อยดี ยัมมี่ๆๆ สิ้นสุดวันโดยการโทรศัพท์กลับบ้าน แล้วก็ซื้อเสบียงตุนไว้จาก Family mart ใต้โรงแรม


Tips: การโทรศัพท์กลับเมืองไทยมีบัตรขายอยู่มากมายหลายเจ้า ราคาแตกต่างกันไปบ้างขอแนะนำยี่ห้อ Brastel ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ รายละเอียดตามไปที่ลิ้งค์โลด http://www.brastel.com/Pages/eng/Home/


เฮ้อ..หมดไป 1 วัน แค่เพียงแป๊ปเดียวที่เรามาถึง สิ่งนึงที่สังเกตได้คือคนที่นี่เค้าสูบบุหรี่จัดมากกกก เดินตามท้องถนนนี่มีกลิ่นควันบุหรี่ฟุ้งไปหมดเลย แถมตรงทางม้าลายอ่ะ มีก้นบุหรี่เยอะมากกก แล้วเค้าสูบจัดกันทั้งผู้ชายแล้วก็ผู้หญิง ไม่จำกัดเพศ ตามริมถนนมีตู้ขายบุหรี่แบบ vending machine เพียบ มีพอๆกับตู้ขายน้ำเลย


No comments:

[SKE48] ซิงเกิ้ลที่ 32 ซิงใหม่ของ SKE48 Ai no Hologram

ขอโปรโมทซิงใหม่ของ SKE48 หน่อยจ้า ส่วนตัวถึงแม้จะติดตามวงมาไม่นาน รู้สึกชอบวงนี้มาก เต้นสวย เต้นแข็งแรง มีสเตจใหม่ครบ 3 ทีม มีความเพิร์ฟดีมา...